สายพันธุ์ไวซ์ฟรอสโฟโต้เพศเมีย100เปอร์เซ็นTHC16-19 %
**เเพ็ค2เมล็ด = 520 บาท**
เเพ็ค5เมล็ด =920 บาท**
สามารถสั่งซื้อได้ในช็อปปี้ร้านigrowthailand1 หรือทางไลน์ หรือทางอินบ็อกเฟสได้ทุกช่องทางค่ะ.
สายพันธุ์นี้เหมาะปลูกใต้ไฟปลูก เเละสามารถปลูกกลางเเจ้งได้.
 สายพันไวซ์ฟรอสนี้เป็นสายพันธ์ที่เป็นที่นิยมมาตั้งแต่อดีตมาแล้ว และปัจจุบันยังมีคนจำนวนมากยังชื่นชอบสายพันธุ์นี้อยู่
เป็นสายพันธ์ที่เหมาะสำหรับใช้ในช่วงที่ต้องการพักผ่อน ช่วยให้หลับง่าย-ผ่อนคลาย-เจริญอาหาร-เพลิดเพลิน.
และมีกลิ่นที่หอมแบบธรรมชาติที่เป็นเอกลักษของสายพันธุ์นี้โดยเฉพาะค่ะ.
สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ผสม ที่เน้นไปทางอินดิก้าซะส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ได้รับการคร่อมสายพันธุ์มาให้เป็นสายพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์กว่าสายพันธุ์แบบดั้งเดิม ที่ทำให้สามารถทนต่อโรคทุกชนิดได้ดีกว่าเดิมมากขึ้น มีขนาดต้นที่กะทัดรัด จึงทำให้ต้นมีขนาดที่ไม่สูงเกินไปเหมาะสำหรับปลูกในเต๊นเป็นพิเศษ และสามารถทนต่อสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงได้ดี.
และหลังจากที่เข้าระยะทำดอกได้8 สัปดาห์แล้ว ดอกก็จะเริ่มแก่ได้ที่และมีสารเมา หรือสารTHC ที่สูงขึ้น 16-19 %เลยทีเดียว.สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่ดูแลรักษาได้ไม่ยากนัก แม้แต่คนที่ไม่ค่อยมีความรู้ในด้านการปลูกก็สามารถปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดีได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก.ด้วยรสชาติดั้งเดิมที่เป็นที่นิยมอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1980 (30-40ปีก่อน) เรามั่นใจว่าคุณจะพึงพอใจกับรสชาติของสายพันธุ์นี้ได้ไม่ยากแน่นอน.
ระยะเวลาทำดอก(ต้นเริ่มแสดงเพศ-ตัดดอก)***56-60 วัน
สายพันธุ์ *** ซาติว่า20% - อินดิก้า80%
พ่อแม่พันธุ์*** White Widow x AK47
ความสูงปลูกใต้ไฟปลูก***80-120 ซม.
ความสูงปลูกกลางแจ้ง(ในกรณีปลูกที่เมืองนอก)***150-220 ซม.
ผลผลิตปลูกใต้ไฟ*** 400-500 กรัม/ตรม.
ผลผลิตปลูกกลางแจ้ง(ในกรณีปลูกที่เมืองนอก)***300-500กรัม/ต้น
เวลาเก็บเกี่ยวกลางแจ้ง(ที่เมืองนอก)***ต้นเดือนตุลาคม
กลิ่น***ลูกพีช -ช็อคโกแล็ต-มะนาว-น้ำมัน(แต่ล่ะคนก็จะคิดไม่เหมือนกัน)
เอฟเฟ็ค*** ผ่อนคลาย-ตัวเบา-เจริญอาหาร-เพลิดเพลิน-รักษาอาการซึมเศร้า(แต่ล่ะคนจะมีอาการต่างกันออกไป)

*********
ไม่แนะนำให้เยาชนใช้พืชตัวนี้ เพราะสมองกำลังมีพัฒนาการอยู่นะคะ รอให้โตก่อนค่อยลองก็ยังไม่สายค่ะ.
ส่วนการใช้กัญชา จะมี2วิธีหลักๆคือ
วิธีการกิน ไม่ว่าจะเป็นการหยอดใต้ลิ้น หรือกินในรูปแบบช็อคโกแล็ตหรือบราวนี่นะคะ
อันนี้เป็นการใส่เข้าไปในร่างกายโดยตรง ดีคือมันจะเข้าร่างกายโดยตรงได้เต็มที่ แต่ข้อเสียคือ มันออกฤทธ์ช้า แต่ออกฤทธิ์แรง ทำให้คนกินเข้าไปเผลอ หยอดหรือกินเข้าไปเกินขนาดไปมาก เพราะตอนเวลากินเราจะยังไม่มีอาการ แต่มันจะเริ่มแสดงอาการหลังกินเข้าไป 30-45นาทีต่อมาค่ะ และข้อน่ากลัวก็คือเราไม่รู้เลยว่าคนทำเขา สกัดหรือใส่สารพืชตัวนี้เข้าไปเข้มข้นมากเท่าไหร่ . ดังนั้นให้สังเกตุว่าเวลาใช้การหยอด หรือการกิน ที่เมืองนอกจะต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เวลาที่เราเข้าไปซื้อสินค้าพวกนี้นะคะ  แต่ที่ไทยอันตราย เพราะคนไทยเราขาดความรู้กันเยอะมากนะคะ .
ถ้ากินเกินขนาดก็จะเกิดอาการ หลอน -ผวา -ความดันโลหิตต่ำ-ใจสั่น-หนาว เป็นต้น ในรายที่ลองครั้งแรกและเผลอกินเข้าไปเยอะเกินมากๆนะคะ และก็สุดท้ายก็จะอ้วกออกมาคล้ายอาการคนเมาค่ะ
ส่วนการเมาจากการกินจะออกฤทธิ์ แบ่งเป็น2 ระยะ
ระยะที่1 คือช่วง High ช่วงนี้จะมึนงง ตัวเบา เหม่อลอย จิตนาการเพลิดเพลิน
ระยะที่ 2 คือช่วง After high ช่วงนี้จะโฟกัสเรื่องต่างๆได้ดี สมองแล่น มีความคิดสร้างสรรค์ ในเรื่องงาน อาจมีอาการมึนหน่อยแต่ก็ถือว่าไม่มาก.
ส่วนวิธีการสูบ จะออกฤทธิ์เร็วภายใน2-3นาที
แต่ระยะการเมาจะไวกว่า สั้นกว่าการกิน และเนื่องจากเรารู้อาการเมาได้เกือบในทันที จึงทำให้เราควบคุมการใช้ได้ง่ายกว่าการกิน
และส่วนข้อดีของสาร THC และ CBD ก็อย่างที่รู้กันว่า ช่วยเรื่องออกฤทธิ์ ต่อสมอง ช่วยทำให้ผ่อนคลาย ทำให้สมองหลั่งสารความสุขออกมา เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ลดความเครียด ช่วยลดอาการปวด แก้เครียด ไมเกรน ปวดหัว และทั้งยังช่วยในเรื่อง โรคซึมเศร้ากับผู้ป่วยบางราย และอาการ นอนไม่หลับ ลดความดัน ลดน้ำตาลในเลือด มะเร็ง อาการเบื่ออาหาร และยังช่วยบรรเทาอาการเคลื่อนไส้อาเจียน ในผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในช่วงทำทำคีโมด้วยเช่นกัน.
จะเห็นได้ว่าพืชตัวนี้ มีประโยชน์มากกว่าโทษในหลายๆมุม   ถ้าเรารู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์และใช้ให้ถูกวิธี และควบคุมปริมาณการใช้ให้แค่พอเหมาะ. ไม่ใช่ว่าหมกมุ่นอยู่กับการใช้ทุกๆวัน จนทำให้เสียหน้าที่การงาน และเกิดปัญหาในครอบครัวได้ง่าย.