Sticky Gorila

A009
ขนาดบรรจุ:
2-5เมล็ด
สี:
ขนาด:
ไม่ระบุไซต์,
จำนวน
 
สติ๊กกี้กอริลล่า โฟโต้สายพันธุ์เพศเมียเเท้100 เปอร์เซ็น. THC 23-27 %
**เเพ็ค2เมล็ด = 590 บาท**
เเพ็ค5เมล็ด =1030 บาท**
สามารถสั่งซื้อได้ในช็อปปี้ร้านigrowthailand1 หรือทางไลน์ หรือทางอินบ็อกเฟสได้ทุกช่องทางค่ะ.
สายพันธุ์สติ๊กกี้ กอริลล่า นี้ มีข้อเด่นๆที่เห็นได้ชัดก็คือ จะเป็นต้นที่มีดอกใหญ่ ปลูกง่ายโตไวเป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง Chem Sister x Sour Dubbส่วนกลิ่นจะมีเอกลักษ์เฉพาะตัวออกเปรี้ยวเหมือนเปลือกส้ม ผสมเข้ากับกลิ่นน้ำมัน-และเปลือกสนและ ข้อเด่นหลักๆคือจะดูแลรักษาง่าย สามารถปลูกได้ดีทั้งกลางแจ้งที่ไทย และแน่นอนว่าสายพันธุ์นอกทุกพันธ์ จะชอบให้เราปลูกใต้ไฟปลูกอย่างแน่นอน. 
สายพันธุ์นี้เหมาะแก่การใช้ในเวลาว่าง พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ที่ไม่ต้องทำงาน เอฟเฟคที่จะได้อาจมี ผ่อนคลาย-สมองโล่ง-ล่องลอย-อารมณ์ดี-จินตนาการ-จิตตก-ฉุนเฉียว(แต่ล่ะคนจะมีอาการต่างกันออกไป)
  สายพันธ์นี้และมีไตรโคมอยู่เยอะจึงทำให้สายพันธุ์นี้ เป็นที่ชื่นชอบเป็นอย่างมากของนักปลูกมือใหม่ทั้งหลายรวมทั้งนักปลูกมืออาชีพด้วยเช่นกัน
ความเด่นของสายพันธุ์นี้จะอยู่ที่มีค่า THC ที่ค่อนข้างสูงประกอบเข้ากับกลิ่นและรสชาติที่น่าสนใจ โดยมีระยะทำดอกที่ไม่นานเกินไปอยู่ที่ประมาณ 56-63วันเท่านั้น.   ทำให้พันธุ์นี้เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่คุณจะชื่นชอบได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก.  สติ๊กกี้ กอริล่านี้ถ้าเกิดว่าคุณปลูกและดูแลรักษาดีๆแล้ว และเก็บดอกไว้ให้แก่ได้ที่ก่อนตัด ก็จะทำให้ค่าสารเมาหรือว่าสาร THC นี้สามารถสูงขึ้นได้จนถึง 23-25% ได้แบบไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก.  พันธุ์นี้จึงเป็นอีก1สายพันธุ์ที่คนที่ชื่นชอบความเมาไม่ควรพลาดเด็ดขาด.ถ้าเกิดว่าคุณปลูกได้เก่ง ปลูกได้ต้นใหญ่และสมบูรณ์ ต้น1ต้นสามารถให้ผลผลิตได้ถึง 500-650 กรัม/ต้นกันเลยทีเดียว และในกรณีที่ปลูกกลางแจ้ง (โดยเฉพาะแถบยุโรปที่มีแสง ตอนกลางวันเยอะในหน้าร้อน) ต้นก็จะยิ่งใหญ่โต และให้ผลผลิตได้มากขึ้นตามมาอีกด้วย.
ระยะเวลาทำดอก(ต้นเริ่มแสดงเพศ-ตัดดอก)***56-63 วัน
สายพันธุ์ *** ซาติว่า60% - อินดิก้า40%
พ่อแม่พันธุ์*** Chem Sister x Sour Dubb
ความสูงปลูกใต้ไฟปลูก***130-150 ซม.
ความสูงปลูกกลางแจ้ง(ในกรณีปลูกที่เมืองนอก)***160-220 ซม.
ผลผลิตปลูกใต้ไฟ*** 500-600 กรัม/ตรม.
ผลผลิตปลูกกลางแจ้ง(ในกรณีปลูกที่เมืองนอก)***400-600กรัม/ต้น
เวลาเก็บเกี่ยวกลางแจ้ง(ที่เมืองนอก)***ต้นเดือนตุลาคม
กลิ่น***ผลไม้-น้ำมัน-ต้นสน-พริกไทย-เปลือกส้ม(แต่ล่ะคนก็จะคิดไม่เหมือนกัน)
เอฟเฟ็ค*** ผ่อนคลาย-สมองโล่ง-ล่องลอย-อารมณ์ดี-จิตนาการ-จิตตก(แต่ล่ะคนจะมีอาการต่างกันออกไป)

*********
******ไม่แนะนำให้เยาชนใช้พืชตัวนี้ เพราะสมองกำลังมีพัฒนาการอยู่นะคะ รอให้โตก่อนค่อยลองก็ยังไม่สายค่ะ.
ส่วนการใช้กัญชา จะมี2วิธีหลักๆคือ
วิธีการกิน ไม่ว่าจะเป็นการหยอดใต้ลิ้น หรือกินในรูปแบบช็อคโกแล็ตหรือบราวนี่นะคะ
อันนี้เป็นการใส่เข้าไปในร่างกายโดยตรง ดีคือมันจะเข้าร่างกายโดยตรงได้เต็มที่ แต่ข้อเสียคือ มันออกฤทธ์ช้า แต่ออกฤทธิ์แรง ทำให้คนกินเข้าไปเผลอ หยอดหรือกินเข้าไปเกินขนาดไปมาก เพราะตอนเวลากินเราจะยังไม่มีอาการ แต่มันจะเริ่มแสดงอาการหลังกินเข้าไป 30-45นาทีต่อมาค่ะ และข้อน่ากลัวก็คือเราไม่รู้เลยว่าคนทำเขา สกัดหรือใส่สารพืชตัวนี้เข้าไปเข้มข้นมากเท่าไหร่ . ดังนั้นให้สังเกตุว่าเวลาใช้การหยอด หรือการกิน ที่เมืองนอกจะต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เวลาที่เราเข้าไปซื้อสินค้าพวกนี้นะคะ  แต่ที่ไทยอันตราย เพราะคนไทยเราขาดความรู้กันเยอะมากนะคะ .
ถ้ากินเกินขนาดก็จะเกิดอาการ หลอน -ผวา -ความดันโลหิตต่ำ-ใจสั่น-หนาว เป็นต้น ในรายที่ลองครั้งแรกและเผลอกินเข้าไปเยอะเกินมากๆนะคะ และก็สุดท้ายก็จะอ้วกออกมาคล้ายอาการคนเมาค่ะ
ส่วนการเมาจากการกินจะออกฤทธิ์ แบ่งเป็น2 ระยะ
ระยะที่1 คือช่วง 
High ช่วงนี้จะมึนงง ตัวเบา เหม่อลอย จิตนาการเพลิดเพลิน
ระยะที่ 2 คือช่วง 
After high ช่วงนี้จะโฟกัสเรื่องต่างๆได้ดี สมองแล่น มีความคิดสร้างสรรค์ ในเรื่องงาน อาจมีอาการมึนหน่อยแต่ก็ถือว่าไม่มาก.
ส่วนวิธีการสูบ จะออกฤทธิ์เร็วภายใน2-3นาที
แต่ระยะการเมาจะไวกว่า สั้นกว่าการกิน และเนื่องจากเรารู้อาการเมาได้เกือบในทันที จึงทำให้เราควบคุมการใช้ได้ง่ายกว่าการกิน
และส่วนข้อดีของสาร 
THC และ CBD ก็อย่างที่รู้กันว่า ช่วยเรื่องออกฤทธิ์ ต่อสมอง ช่วยทำให้ผ่อนคลาย ทำให้สมองหลั่งสารความสุขออกมา เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ลดความเครียด ช่วยลดอาการปวด แก้เครียด ไมเกรน ปวดหัว และทั้งยังช่วยในเรื่อง โรคซึมเศร้ากับผู้ป่วยบางราย และอาการ นอนไม่หลับ ลดความดัน ลดน้ำตาลในเลือด มะเร็ง อาการเบื่ออาหาร และยังช่วยบรรเทาอาการเคลื่อนไส้อาเจียน ในผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในช่วงทำทำคีโมด้วยเช่นกัน.
จะเห็นได้ว่าพืชตัวนี้ มีประโยชน์มากกว่าโทษในหลายๆมุม   ถ้าเรารู้จักใช้มันให้เป็นประโยชน์และใช้ให้ถูกวิธี และควบคุมปริมาณการใช้ให้แค่พอเหมาะ. ไม่ใช่ว่าหมกมุ่นอยู่กับการใช้ทุกๆวัน จนทำให้เสียหน้าที่การงาน และเกิดปัญหาในครอบครัวได้ง่าย.******
 

ความเห็นจากลูกค้าจริง


 
Scroll to Top